NC ย่อมาจาก No
Children
NC
(No Children) หมายถึง ฉากในภาพยนตร์ที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก
ซึ่งมักจะประกอบไปด้วยฉากที่มีการใช้ความรุนแรง มีความเกี่ยวข้องกับเพศ ยาเสพย์ติด
รวมถึงฉากอื่น ๆ ที่เด็กมิอาจดูได้ เช่น ฉากคลอดลูก ฉากข่มขืน เป็นต้น
โดยทั่วไปแล้วตัวอักษรย่อ NC จะใช้ในการจัดเรทให้กับสื่อ
เช่น ภาพยนตร์ หรือ วิดีโอเกมส์ รวมถึงนิยายหรืองานเขียน
เพื่อให้ผู้ปกครองทราบว่าสื่อดังกล่าวไม่เหมาะสมสำหรับเด็กและเยาวชน
CNC เป็นคำย่อมาจากคำว่า
Computer Numerical Control หมายถึงการใช้คอมพิวเตอร์มาช่วยควบคุมการทำงานเครื่องจักรกลอัตโนมัติต่างๆ
เช่น เครื่องกัด เครื่องกลึง เครื่องเจาะ เครื่องเจียระไน ฯลฯ โดยการสร้างรหัส
ตัวเลข สัญลักษณ์ หรือเรียกว่าโปรแกรม NC ขึ้นมาควบคุมการทำงานของเครื่องจักรกล
ซึ่งสามารถทำให้ผลิตชิ้นงานได้รวดเร็วถูกต้อง และเที่ยงตรง
ข้อดีของเครื่องจักรกล CNC
1.มีความเที่ยงตรงสูงในการปฏิบัติงานเพราะชิ้นงานต่างๆ ต้องการขนาดที่แน่นอน
2.ทุกชิ้นงานมีคุณภาพสม่ำเสมอเท่ากันหมด เนื่องจากผลิตโดยใช้โปรแกรมในการสั่งเครื่องจักรกล
CNC ทำงาน
3.โอกาสเกิดความเสียหาย หรือต้องแก้ไขชิ้นงานน้อยหรือแทบไม่มี เพราะชิ้นงานที่ทำจะใช้โปรแกรมใน
การควบคุม ถ้าผิดพลาดก็แก้ไขที่โปรแกรม
4.สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่งโมง โดยไม่ต้องหยุดพักเครื่อง แต่ต้องมีคนควบคุมประจำ
เครื่องจักรกล CNC
5.มีความรวดเร็วสูงในการผลิต ทำให้ได้ผลผลิตสูง เพราะสามารถกำหนดระยะเวลาในการผลิตชิ้นงาน
ได้ว่าจะใช้เวลาในการทำงานกี่ชิ้นต่อวินาที/นาที/ชั่วโมง
6.สามารถคาดคะเนและวางแผนการผลิตได้อย่างแม่นยำ เพราะรู้ระยะเวลาในการปฏิบัติงานเพื่อที่จะ
นัดหรือส่งงานลูกค้าได้ตรงตามเวลา
7.สามารถสลับเปลี่ยนรูปแบบของชิ้นงานได้หลากหลายรูปทรง เนื่องจากสะดวกและรวดเร็วในการ
ทำงานเพราะใช้โปรแกรมในการสั่งงาน
8.เมื่อเปรียบเทียบจำนวนผลผลิตที่เท่ากัน เครื่องจักรกลซีเอ็นซีจะใช้พื้นที่น้อยกว่า และลดพื้นที่ในการ
จัดเก็บชิ้นงาน
9.มีความสะดวกสำหรับใช้ในการผลิตชิ้นงานต้นแบบที่มีการแก้ไขบ่อยๆ เพราะเวลาแก้ไขสามารถแก้ไข
ได้ที่โปรแกรม
10.ชิ้นงานที่มีความซับซ้อนสูงและมีหลายขั้นตอนการผลิต สามารถใช้เครื่องจักรกลซีเอ็นซีเครื่องเดียวได้
ทำให้ไม่ต้องย้ายไปทำงานที่เครื่องอื่นให้เสียเวลาในการปฏิบัติงาน
11.ลดขั้นตอนในการตรวจสอบคุณภาพลง เพราะชิ้นงานนั้นได้ขนาดเท่ากันทุกๆชิ้น แต่ควรเลือกค่าของ
ความเร็วรอบและความเร็วตัดให้เหมาะสม เพื่อลดอายุการสึกหรอของทูลที่ใช้
12.ทำให้สามารถใช้ทูล หรือเครื่องมือตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะต้องคำนวณค่าต่างๆ มาก่อนลงมือปฏิบัติงานกับเครื่องจักรกล CNC
13.ลดแรงงานในสายการผลิตลง เนื่องจากผู้ควบคุมเครื่อง 1 คน สามารถคุมได้ 3-5 เครื่อง
ใช้อุปกรณ์เสริมน้อยและไม่ต้องใช้แผ่นลอกแบบ (Camplates หรือ Templates) แต่ผู้ใช้จะต้องเขียนโปรแกรมให้ถูกต้อง
1.มีความเที่ยงตรงสูงในการปฏิบัติงานเพราะชิ้นงานต่างๆ ต้องการขนาดที่แน่นอน
2.ทุกชิ้นงานมีคุณภาพสม่ำเสมอเท่ากันหมด เนื่องจากผลิตโดยใช้โปรแกรมในการสั่งเครื่องจักรกล
CNC ทำงาน
3.โอกาสเกิดความเสียหาย หรือต้องแก้ไขชิ้นงานน้อยหรือแทบไม่มี เพราะชิ้นงานที่ทำจะใช้โปรแกรมใน
การควบคุม ถ้าผิดพลาดก็แก้ไขที่โปรแกรม
4.สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่งโมง โดยไม่ต้องหยุดพักเครื่อง แต่ต้องมีคนควบคุมประจำ
เครื่องจักรกล CNC
5.มีความรวดเร็วสูงในการผลิต ทำให้ได้ผลผลิตสูง เพราะสามารถกำหนดระยะเวลาในการผลิตชิ้นงาน
ได้ว่าจะใช้เวลาในการทำงานกี่ชิ้นต่อวินาที/นาที/ชั่วโมง
6.สามารถคาดคะเนและวางแผนการผลิตได้อย่างแม่นยำ เพราะรู้ระยะเวลาในการปฏิบัติงานเพื่อที่จะ
นัดหรือส่งงานลูกค้าได้ตรงตามเวลา
7.สามารถสลับเปลี่ยนรูปแบบของชิ้นงานได้หลากหลายรูปทรง เนื่องจากสะดวกและรวดเร็วในการ
ทำงานเพราะใช้โปรแกรมในการสั่งงาน
8.เมื่อเปรียบเทียบจำนวนผลผลิตที่เท่ากัน เครื่องจักรกลซีเอ็นซีจะใช้พื้นที่น้อยกว่า และลดพื้นที่ในการ
จัดเก็บชิ้นงาน
9.มีความสะดวกสำหรับใช้ในการผลิตชิ้นงานต้นแบบที่มีการแก้ไขบ่อยๆ เพราะเวลาแก้ไขสามารถแก้ไข
ได้ที่โปรแกรม
10.ชิ้นงานที่มีความซับซ้อนสูงและมีหลายขั้นตอนการผลิต สามารถใช้เครื่องจักรกลซีเอ็นซีเครื่องเดียวได้
ทำให้ไม่ต้องย้ายไปทำงานที่เครื่องอื่นให้เสียเวลาในการปฏิบัติงาน
11.ลดขั้นตอนในการตรวจสอบคุณภาพลง เพราะชิ้นงานนั้นได้ขนาดเท่ากันทุกๆชิ้น แต่ควรเลือกค่าของ
ความเร็วรอบและความเร็วตัดให้เหมาะสม เพื่อลดอายุการสึกหรอของทูลที่ใช้
12.ทำให้สามารถใช้ทูล หรือเครื่องมือตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจะต้องคำนวณค่าต่างๆ มาก่อนลงมือปฏิบัติงานกับเครื่องจักรกล CNC
13.ลดแรงงานในสายการผลิตลง เนื่องจากผู้ควบคุมเครื่อง 1 คน สามารถคุมได้ 3-5 เครื่อง
ใช้อุปกรณ์เสริมน้อยและไม่ต้องใช้แผ่นลอกแบบ (Camplates หรือ Templates) แต่ผู้ใช้จะต้องเขียนโปรแกรมให้ถูกต้อง
ข้อเสียของเครื่องจักรกล CNC
1.มีราคาแพงมากเพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากยังไม่มีการผลิตเครื่องจักรกล CNC ภายในประเทศ
2.ค่าซ่อมแซมสูง เนื่องจากการซ่อมแซมมีความซับซ้อน เพราะทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ รวมถึงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต้องใช้ผู้ชำนาญการ
3.อุปกรณ์และซอฟต์แวร์เสริม (Option) มีราคาสูงและต้องได้มาจากผู้ผลิตเครื่องจักรกล CNC นั้นๆ เท่านั้น
ต้องมีความรู้พื้นฐานทางวิชาคณิตศาสตร์มากพอสมควรสำหรับใช้ในการเขียนโปรแกรม เพราะมิฉะนั้นจะไม่สามารถคำนวณหาค่าของจุดต่างๆได้
4.ต้องมีพื้นที่ในการทำงานมากพอและมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่ผู้เขียนโปรแกรม NC
5.ต้องหางานป้อนให้เครื่องทำงานประจำอย่างสม่ำเสมอไม่หยุดนิ่ง เพราะอาจทำให้ชิ้นส่วนบางอย่างเสื่อมสภาพ และเพื่อให้เครื่องจักรได้รันเครื่องเตรียมพร้อมตลอดเวลา
6.ไม่เหมาะกับการผลิตชิ้นงานที่มีจำนวนน้อยๆ ควรใช้กับการผลิตชิ้นงานที่มีจำนวนมากๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการจ้างพนักงาน
7.ค่าซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักรสูงมาก เนื่องจากต้องใช้ช่างผู้ชำนาญเฉพาะทางในการซ่อมแซม
ชิ้นส่วนหรืออะไหล่ถ้าเกิดการชำรุดหรือเสียหายในบางกรณี ต้องรอส่งมาจากต่างประเทศเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้ผลิตในประเทศ
8.คอนโทรลเลอร์เป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้น ช่างจะต้องเรียนรู้และมีการฝึกอบรมการใช้เครื่องและการเขียนโปรแกรมก่อนเริ่มใช้เครื่อง มิฉะนั้นจะไม่สามารถใช้เครื่องได้เลย
1.มีราคาแพงมากเพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากยังไม่มีการผลิตเครื่องจักรกล CNC ภายในประเทศ
2.ค่าซ่อมแซมสูง เนื่องจากการซ่อมแซมมีความซับซ้อน เพราะทั้งฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ รวมถึงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต้องใช้ผู้ชำนาญการ
3.อุปกรณ์และซอฟต์แวร์เสริม (Option) มีราคาสูงและต้องได้มาจากผู้ผลิตเครื่องจักรกล CNC นั้นๆ เท่านั้น
ต้องมีความรู้พื้นฐานทางวิชาคณิตศาสตร์มากพอสมควรสำหรับใช้ในการเขียนโปรแกรม เพราะมิฉะนั้นจะไม่สามารถคำนวณหาค่าของจุดต่างๆได้
4.ต้องมีพื้นที่ในการทำงานมากพอและมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่ผู้เขียนโปรแกรม NC
5.ต้องหางานป้อนให้เครื่องทำงานประจำอย่างสม่ำเสมอไม่หยุดนิ่ง เพราะอาจทำให้ชิ้นส่วนบางอย่างเสื่อมสภาพ และเพื่อให้เครื่องจักรได้รันเครื่องเตรียมพร้อมตลอดเวลา
6.ไม่เหมาะกับการผลิตชิ้นงานที่มีจำนวนน้อยๆ ควรใช้กับการผลิตชิ้นงานที่มีจำนวนมากๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการจ้างพนักงาน
7.ค่าซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักรสูงมาก เนื่องจากต้องใช้ช่างผู้ชำนาญเฉพาะทางในการซ่อมแซม
ชิ้นส่วนหรืออะไหล่ถ้าเกิดการชำรุดหรือเสียหายในบางกรณี ต้องรอส่งมาจากต่างประเทศเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้ผลิตในประเทศ
8.คอนโทรลเลอร์เป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้น ช่างจะต้องเรียนรู้และมีการฝึกอบรมการใช้เครื่องและการเขียนโปรแกรมก่อนเริ่มใช้เครื่อง มิฉะนั้นจะไม่สามารถใช้เครื่องได้เลย
เครื่องกลึงและ หลักการทำงานของเครื่องจักรกล ซีเอ็นซี ( CNC )
เครื่องกลึง
เครื่องกลึงเป็นเครื่องมือกลขั้นพื้นฐานที่มีความสําคัญอย่างมากใช้สำหรับกลึงชิ้นงานเครื่องมือกลเบื้องต้น
ชนิดของเครื่องกลึง- เครื่องกลึงตั้ง- เครื่องกลึงหน้าจาน-
เครื่องกลึงป้อน- เครื่องกลึงชนิดยันศูนย์
หน้าที่ของเครื่องกลึง1. ใช้กลึงปาดหน้า2. ใช้กลึงปอกผิว3.
ใช้กลึงลดขนาด4. ใช้กลึงเกลียว5. ใช้กลึงพิมพ์ลาย6. ใช้กลึงขึ้นรูป7. ใช้กลึงคว้าน8. ใช้เจาะรู9. ใช้ต๊าปเกลียว10.
ใช้ดายเกลียว11. ใช้เจียระไนบนเครื่องกลึง
ส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องกลึง1. แขนหมุนปรับความเร็วรอบ
(Spindle Speed Selector)2. แขนโยกปรับกลึงเกลียว (Leadscrew
Reverse & ThreadRange Lever)3. ชุดเฟืองทด ( Gears ) อยู่ตรงกลางระหว่างชุดหัวเครื่องกับชุดท้ายแท่นจะเคลื่อนที่ไปมา ซ้าย –
ขวา บนสะพานแท่นเครื่อง4. ชุดแคร่เลื่อน (Saddle)5. ชุดแท่นเลื่อน(Carriage)6. ชุดเฟืองป้อน (Feed
Gear)7. เพลานำ (Lead Screw)8. เพลาป้อน (Feed
Shaft)
ข้อควรระวังในการใช้เครื่องกลึง• ตรวจสอบความพร้อมของเครื่องกลึงก่อนใช้•
ตรวจสอบความพร้อมของสภาพร่างกายก่อนใช้งาน•
ต้องมั่นใจก่อนเปิดสวิตช์เดินเครื่องกลึงว่าได้จับชิ้นงานแน่นเพียงพอแล้ว•
ระมัดระวังไม่ให้มีดกลึงชนกับหัวจับเครื่องกลึงที่กำลังหมุน•
ห้ามวางอุปกรณ์หรือสิ่งอื่นใดตรงบริเวณที่เครื่องหมุน•
ห้ามเขี่ยเศษเหล็กและตรวจวัดชิ้นงานขณะกำลังหมุน•
ขณะปฏิบัติงานต้องมีแสงสว่างเพียงพอ• ไม่ควรหยอกล้อขณะปฏิบัติงาน• ควรเปิด –
ปิดสวิตช์ด้วยตนเอง• ไม่ควรประมาทขณะปฏิบัติงานกับเครื่องกลึง
หลักการทำงานของเครื่องจักรกลซีเอ็นซี (CNC) จะคล้ายคลึงกับเครื่องจักรกลทั่วๆ
ไป คือ พื้นฐานเบื้องต้นของการทำงานของเครื่องจักรกลซีเอ็นซี (CNC) จะทำการผลิตชิ้นงานเหมือนกับเครื่องจักรกลทั่วไปแต่จะแตกต่างกันที่การควบคุมการทำงาน
การควบคุมการทำงานของเครื่องจักรกลซีเอ็นซีจะใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานในขั้นตอนต่าง
ๆ แทนที่จะใช้คนควบคุมเครื่อง
ส่วนของการควบคุมเครื่องจักรแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่
ๆ คือ1. การควบคุมการเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ต้องการ (
Movement )
2.
การควบคุมความเร็วของการเคลื่อนที่ (Speed)
หลักการทำงานของเครื่องจักรกลซีเอ็นซีเครื่องจักรกลซีเอ็นซี
(CNC) จะทำงานได้นั้น
ระบบควบคุมของเครื่องจะต้องได้รับคำสั่งเป็นภาษาที่ระบบควบคุมเข้าใจได้เสียก่อนว่าจะให้เครื่องจักรกลซีเอ็นซีทำอะไร
ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องป้อนโปรแกรมเข้าไปในระบบควบคุมของเครื่องผ่านแป้นพิมพ์ ( Key
Board ) หรือเทปแม่เหล็ก ( Magnetic Tape ) เมื่อระบบควบคุมอ่านโปรแกรมที่ป้อนเข้าไปแล้ว
ก็จะนำไปควบคุมให้เครื่องจักรกลทำงานโดยอาศัยมอเตอร์ป้อน ( Feed Moter ) เพื่อให้แท่นเลื่อนเคลื่อนที่ได้ตามที่เราต้องการ เช่น
เครื่องกลึงซีเอ็นซี ( CNC Machine ) ก็จะมีมอเตอร์ในการเคลื่อนที่อยู่
2 ตัว หรือเครื่องกัดซีเอ็นซีก็จะมีมอเตอร์ป้อน 3 ตัว จากนั้นระบบควบคุมอ่านโปรแกรมเสร็จแล้ว
ก็จะเปลี่ยนรหัสโปรแกรมนั้นให้เป็นสัญญาณทางไฟฟ้าเพื่อไปควบคุมให้มอเตอร์ทำงาน
แต่เนื่องจากสัญญาณที่ออกจากระบบควบคุมนี้มีกำลังน้อย
ไม่สามารถไปหมุนขับให้มอเตอร์ทำงานได้ ดังนั้น จึงต้องส่งสัญญาณนี้เข้าไปในภาคขยายสัญญาณของระบบขับ
( Drive amplified ) และส่งสัญญาณต่อไปยังมอเตอร์ป้อนแนวแกนที่ต้องการเคลื่อนที่
ตามที่โปรแกรมกำหนด ความเร็วและระยะทาง
การเคลื่อนที่ของแท่นเลื่อนจะต้องกำหนดให้ระบบควบคุมรู้เนื่องจากระบบควบคุมซีเอ็นซี
( CNC )ไม่สามารถมองเห็นได้ ซึ่งจะแตกต่างกับช่างควบคุมเครื่องจักรที่อาศัยสายตามองดูตำแหน่งของคมตัดกับชิ้นงาน
ก็จะรู้ว่าต้องเลื่อนแท่นเลื่อนไปอีกเป็นระยะทางเท่าใดถึงจะถึงชิ้นงาน ดังนั้น
จึงต้องออกแบบอุปกรณ์หรือเครื่องมือที่สามารถจะบอกตำแหน่งของแท่นเลื่อนให้ระบบควบคุมได้รู้
อุปกรณ์ชุดนี้เรียกว่า ระบบวัดขนาด ( Measuring System) ซึ่งประกอบด้วยสเกลแนวตรง
( Liner Scale ) มีจำนวนเท่ากับจำนวนแนวแกนในการเคลื่อนที่ของเครื่องจักรกล
ทำหน้าที่ส่งสัญญาณไฟฟ้าที่สัมพันธ์กับระยะทางที่แท่นเลื่อนเคลื่อนที่กลับไปยังระบบควบคุม
ทำให้ระบบควบคุมรู้ว่าแท่นเลื่อนเคลื่อนที่ไปเป็นระยะทางเท่าใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น